วิธีการใช้น้ำหอมฟีโรโมน และ วิธีการเก็บรักษา

กดแชร์
Share

น้ำหอมฟีโรโมน คือ สุดยอดน้ำหอมที่ใช้เพียงน้อยนิดแต่สามารถดึงดูดใจเพศตรงข้ามได้แบบน่า มหัศจรรย์ นอกจากอานุภาพดีเริ่สดั่งน้ำมันพรายมหาเสน่ห์แล้ว ยังสามารถโน้มน้าวจิตใจคนรอบข้างได้อีกด้วย ให้คนกลายเป็นมิตร ให้คนรักใคร่เอ็นดู เชื่อใจ ไว้ใจ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวคุณ เปลี่ยนวันธรรมดาให้ดูดี เปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนดูแลตัวเอง เปลี่ยนจิตใจเศร้าหมองให้สดใส เปลี่ยนโสดให้มีคู่ เปลี่ยนคนเจ้าชู้ให้เค้าหยุดอยู่ที่เรา

 

“มั่นใจกว่าเก่า เร้าใจกว่าก่อน เร่าร้อนกว่าใคร ดึงดูดใจกว่าเดิม”

Follow Me น้ำหอมที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ!

 

Follow Me น้ำหอมฟีโรโมนคุณภาพดี

  • สูตรลับเฉพาะคิดค้นโดย Perfumers (นักปรุงน้ำหอม) ประสบการณ์กว่า 30 ปี
  • โดดเด่น ดึงดูดใจด้วยฟีโรโมนบริสุทธิ์ แบบนาโนเทคโนโลยี
  • วัตถุดิบธรรมชาติ (Natural 100%)
  • ทุกส่วนผสมนำเข้าจากประเทศอังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศษ
  • เทคโนโลยี Nano Encapsulated ปลดปล่อยกลิ่นอย่างช้าๆ
  • ติดทนยาวนาน กว่า 8-10 ชม.
  • แอลกอฮอล์ Cosmetic Grade
  • สำรวจความพึงพอใจ จากผู้ชายที่หน้าตาดี โปรไฟล์ดี ดูภูมิฐาน หน้าที่การงานดี กว่า 100 คน
  • ลิขสิทธิ์เฉพาะ Follow Me เท่านั้น

 

วิธีใช้

 

ฉีดพรมบริเวณจุดที่เป็นเสื้อผ้า ในส่วนที่หนาๆ เช่น ปกคอเสื้อ กระเป๋าเสื้อ แขนเสื้อ

หรือฉีดพ่นไปกลางอากาศด้านหน้าจุดที่คุณยืนอยู่แล้ว วิ่งผ่าน ละอองความหอม

จะเกาะลงบนตัวคุณ ให้กลิ่นเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้เฉพาะจุด

สามารถฉีดพรมบริเวณจุดที่เป็นชีพจรได้ ซอกคอ หลังใบหู ข้อพับแขน ข้อพับขา เนื่องจากสินค้าเราใช้แอลกอฮอลล์คอสเมติกเกรด (ใช้สำหรับกลุ่มเครื่องสำอางเท่านั้น) หมดกังวลเรื่องอาการระคายเคือง แต่กลิ่นที่ได้จะไม่ติดทนนานเท่ากับใช้พรมลงที่เสื้อผ้า เนื่องจากสภาพภูมิอากาศบ้านเราเป็นเมืองร้อนชื่อ การพรมลงบนร่างกายจะมีโอกาสระเหยได้ง่ายกว่าใช้กับเสื้อผ้า อีกหนึ่งจุดที่แนะนำสำหรับการพรมน้ำหอมฟีโรโมนคือ ผม! ค่ะ ตรงผมจะติดทนมากและได้กลิ่นหอมละเอียดอ่อน ฟุ้งตลอดทั้งวัน

ไม่แนะนำให้ใช้บริเวณส่วนที่เป็นผิวหนังส่วนที่บอบบางมากเป็นพิเศษ ค่ะ เช่น สะดือ หัวนม อวัยวะเพศ ขาหนีบ รักแร้ เนื่องจากคุณสมบัติของแอลกอฮอล์มีโอกาสทำให้บริเวณนั้นของคุณเปลี่ยนสีเป็นสีดำคล้ำได้

น้ำหอมฟีโรโมนของเรา สามารถพรมได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ และสามารถผสมกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเองได้ โดยการนำกลิ่นที่แตกต่างกันมาฉีดผสมกันค่ะ

วิธีการเก็บน้ำหอมฟีโรโมนควรทำอย่างไร

วิธีการจะดูแลรักษาคุณภาพฟีโรโมนนั้นไม่อยากเลยค่ะ เก็บเหมือนน้ำหอมทั่วไปเลย คือ…

  1. อย่าให้โดนแดด อยากเก็บน้ำหอมฟีโรโมนไว้ในบริเวณที่โดนแดด มีแสงส่อง แดดเลีย หรือไอแดด
  2. ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น เพราะตู้เย็นมีความชื้นสัมพัทธ์สูง และเมื่อเปิดปิดตู้เย็นทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อยเกินไป เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น ทำให้น้ำหอมฟีโรโมนเสื่อมคุณภาพ
  3. ไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำหรือห้องครัว ห้องน้ำก็มีความชื้นสัมพัทธ์สูงเช่นกันมีโอกาสทำให้เป็นที่แพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย มีโอกาสที่กลิ่นน้ำหอมจะปะปนลงไปในอาหาร และในห้องครัวมีกลิ่นอาหารอยู่ ฟีโรโมนสลายไวและเพี้ยนไปจากเดิม
  4. ไม่ควรเปลี่ยนถ่ายขวดน้ำหอมฟีโรโมนด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดการออกซิไดซ์กับตัวหัวเชื้อและฟีโรโมนและจะทำให้เสื่อมคุณภาพลงอย่างรวดเร็ว
  5. หลังใช้แล้วให้ปิดฝาทุกครั้ง เพื่อกันการระเหยบริเวณหัวฉีด

น้ำหอมฟีโรโมนสามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ แสงไฟในบ้านตามปกติไม่ทำลายประสิทธิภาพน้ำหอมแต่อย่างใด

 

แล้วคุณล่ะคะ ลอง หรือ ยัง?

กดแชร์
Share

10 วิธีแก้ปัญหา แฟนไม่ทำการบ้าน!!

กดแชร์
Share

 

ถ้าแฟนไม่ทำการบ้านเราคงจะเบื่อสุดสุดเลยนะคะ มีหลายคู่คบกันไม่นานก็เบื่อกันไปเอง เพราะเรื่องนี้ บางคู่ถึงกับเลิกกันไปเลยจ้า บางคู่คบกันไปนานๆแล้วก็จืดชืดบ้างล่ะ หมดความกระชุ่มกระชวยบ้างล่ะ วันนี้เราจะมาปรับอะไรเล็กๆน้อยๆบางอย่างให้ความอยากกลับมาอีกครั้ง คืนความแซ่บให้ตัวเองกันค่ะ

1.สำรวจความพร้อมของตัวเราเอง

ก่อนจะไปโทษเขาต้องดูตัวเราเองก่อนนะจ๊ะ เราปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ดูเผละไปหรือปล่าว ผิวพรรณดูแลตัวเองดีหรือเปล่า กลิ่นป่งกลิ่นปากเหม็นไม๊ อย่าได้ปล่อยปละเรื่องเล็กๆน้อยๆนะค้า

2.ออดอ้อนออเซาะ

ใช้มารยาให้เต็มที่ บวกกับการใส่จริตจระก้านเข้าไป… พี่ค้าเหนื่อยไหมค๊ามาหนูนวดให้ ดื่มน้ำหน่อยไม๊คะกลับมาเหนื่อยๆ วันนี้อาบน้ำด้วยกันน้า ปวดแขนจังพี่ช่วยดูหน่อยสิว่าเป็นอะไรหรือเปล่าไม่รู้ ทำอะไรก็ได้ให้มีโอกาสได้สัมผัสกัน งัดมันออกมาใช้ให้หมด ….

3.หาทำกิจกรรมร่วมกันเพิ่มขึ้น

คือบางคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอันนั้นเข้าใจได้ ส่วนไอ้คู่ที่อยู่ด้วยกันแต่เหมือนไม่ได้อยู่น่สิน่าเป็นห่วง เช้ารีบๆๆออกไปทำงาน กลับมาเจอหน้ากันอีกทีก็สามสี่ทุ่ม ต่างคนต่างเหนื่อยจ้า แยกย้ายนอนจ้า งี้แล้วความสัมพันธ์มันจะกลับหวานชื่นแบบเดิมได้ยังไงคะคุ๊ณ หาอะไรทำเพิ่มเติมค่ะอย่างเช่น เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว ช๊อปปิ้ง เล่นกีฬา ทำขนม ทำอาหารอะไรก็ได้

4.อย่ากดดันเขา

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ ความเอาแต่ใจตัวเองจะเอาอะไรต้องเอาให้ได้มันใช้ไม่ได้กับเรื่องแบบนี้นะคะ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ยิ่งกดดันเขาจะยิ่งขึ้นอึดอัดมากขึ้น แนะนำว่าค่อยค่อยตีเนียนไปให้เค้าไม่รู้ตัว ว่าเรากำลังจะพยายามละลายพฤติกรรมเค้าอยู่

5.คุยกันตรงๆ

ต้องมานั่งคุยกันว่าเราเกิดอะไรขึ้น คุณถึงการแก้ปัญหากันแบบตรง ไปตรงมา ที่คุณเป็นแบบนี้เพราะอะไร ทราบตัวเองไหม? ถ้าไม่ทราบคิดว่ามันน่าจะเป็นเหตุผลมาจากอะไร? อาศัยการสันนิษฐานไปก่อน ไม่มั่นใจในรูปร่างเรา หรือเหนื่อย หรือเราบ่นเขาเยอะไป รู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้วหรือว่ายังไง เมื่อพอจะทราบสาเหตุแล้วทีนี้ขั้นต่อไปก็คือ

6.แค่ไหนถึงจะพอดีสำหรับเรา

อย่าลืมตอบคำถามตัวเองให้ได้ด้วยนะคะว่า แค่ไหนถึงจะพอดีสำหรับเราทั้งคู่ อาทิตย์ละครั้ง สองอาทิตย์ครั้ง หรือต้องถี่กว่านั้นหรือว่ายังไง หาความพอดีร่วมกันค่ะ

7.หาวิธีการที่แยบยล

ลองหาแพ็คเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว ถ้างบน้อย จองถูกๆไปก็ได้ หรือจะขับรถไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศก็ได้ ให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศนะคะ “เมื่อบรรยากาศเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยน” ที่สำคัญมันช่วยให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อารมณ์ก็จะดีขึ้นด้วยค่ะ

8.ลองเปลี่ยนชุด

หลายหลายสำนักบอกเป็นเสียงเดียวกันจ้า ว่ามันได้ผลจริง!! 555+ อันนี้ก็ไม่เคยลองเหมือนกันจ้า แต่ลองนึกดูสิค้ะใจเขาใจเราอ่ะเนาะ เราเองยังชอบผู้ชายแต่งตัวดีๆดูแลตัวเองเลย หรือบางทีแว๊บไปเห็นนายแบบ ถอดเสื้อ เห็นกล้ามนิดหนึ่ง เรายังอดไปหันไปมองแล้วซี๊ดดดด น้ำลายสอ!ไม่ได้เลยอะแกร การแต่งชุดใหม่ๆจะเพิ่มอารมณ์ร่วมได้เยอะมากๆ ลองชุดพยาบาล ชุดชั้นในแบบบิกินนี่ ชุดว่ายน้ำ ชุดนอนไม่ได้นอน ก็เริ่สดีนะเธ๊ออ ก่อนจะรุกให้อาบน้ำให้สะอาดทาครีมกลิ่นหอมอ่อนๆ พรมน้ำหอมกลิ่นยั่วยวนสักนิสนึง จัดไปจ่ะ

9.อัพเดทลีลาใหม่ๆ

เค้าบอกกันว่าวิธีการรุก ไม่จำเป็นต้องเริ่มบนเตียง เรื่องแบบนี้มันเป็นดั่งงานศิลปะไม่มีอะไรตายตัวค่า เริ่มที่ไหนก็ได้ขออย่างเดียวไม่ให้ประเจิดประเจ้อจนเกินไปนะจ้ะระหว่างที่เราเริ่มรุก ให้ชวนดื่มนิดๆ กรึ่มๆหน่อยทำอะไรก็ได้ที่มีโอกาสได้สัมผัสกัน นัวเนียไปยังไงก็ไม่รอดจ้า …อย่ารอให้เค้าเริ่มก่อน ผู้ชายบางคนจะชอบมากๆนะคะพอเวลา ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เค้าจะรู้สึกถึงความเร่าร้อนและเซ็กซี่ของตัวเอง บับว่า ข้าคือแบทพิท หล่อเท่ห์ล่ำจนผู้หญิงอยากมีอะไรด้วย จัดไปเรยจ่ะ เริ่มก่อนบ้างอะไรบ้างก็แปลกใหม่ดี….. อ่า!! และมีคนเคยบอกว่า “อยู่กับสามี ให้ทำตัวให้เหมือนกะหรี่” อาจจะดูว่าแร๊วงงง! แรงจังคะ แต่มันคือเรื่องจริงนะคะ ผญ.ที่มัดใจแฟนอยู่ อยู่กันมาได้เป็น 10 ปีสามีไม่นอกใจเลย เพราะเรื่องบนเตียงนางเริ่สนี่แหละค่า

10.ใช้ตัวช่วยที่แปลกใหม่

เปลี่ยนมาลองดูหนังAV ใช้ Sex toy ดูบ้าง อันนี้ก็เอามาเป็นตัวช่วยได้น้าโดยเฉพาะการเพิ่มอารมณ์ให้ทั้งคู่ หลายคู่ใช้แล้วก็ติดอกติดใจมีอะไรมาใหม่ใหม่อีกเยอะ คนไม่เคยลองหามาเล่นดูกะได๋จ้าว

กดแชร์
Share

ทำไม แฟนไม่ทำการบ้าน!!

กดแชร์
Share

“แฟนไม่ทำการบ้าน”

  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ทำเสร็จมาจากโรงเรียนแล้ว
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. หรือเบื่อการบ้านโจทย์เดิมๆ
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. อาจจะแอบไปติวข้างนอกมา
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. เก็บไว้ลอกเพื่อนตอนเช้าที่โรงเรียน
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ครูไม่สั่ง
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ครูขี้บ่น
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ลืม!! (ไม่ใช่ลืมอะไรลืมว่ามีเมีย) 555+
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ไปทำข้างนอก 555
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ไม่มีคนช่วยทำ
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. ครูนมเล็ก เดี๋ยวๆ!!! 555
  • แฟนไม่ทำการบ้านอาจเป็นเพราะ …. แฟนอยากเข้าป่า
  • มักพูดติดตลกกันในวงเหล้า แต่น่าเศร้าเพราะมันคือเรื่องจริง!!!

 

มันเกิดขึ้นหลังบ้านของคู่รักหลายๆคู่นะคะ “ทำไมแฟนชั้ลถึงไม่ทำการบ้านเลย”

ผู้หญิงบางคนถึงกับนึกโทษตัวเองค่ะ หรือว่า”เราไม่ดีพอ เราไม่แซ่บแล้ว” หรือ”เป็นเพราะเค้าเบื่อเราหรือเปล่า” มีเหตุผลมากมายที่ชวนให้คุณผู้หญิงนั้นเกิดความกังวล คุณผู้หญิงต้องมีน้ำอดน้ำทนมากน้อยแค่ไหนกันคะคนที่เจอเรื่องแบบนี้มักถามตัวเองเสมอ? มีรุ่นพี่คนหนึ่งเคยแชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า…

คบกันกะแฟนมา 5 ปี  ช่วงแรกๆก็ปกติดี มีอะไรกันแทบทุกวัน หลังๆมาเข้าปีที่ 3 ปีนึงมีอะไรกันนับครั้งได้ เบื่อมาก อึดอัด เคยลองคุย กันตรงตรงแล้วก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไรกันแน่

บางทีมีหงุดหงิดใส่ จนต้องมาย้อนมองดูตัวเอง  คิดสงสารตัวเอง คิดไปต่างๆนานา เค้าไปมีคนอื่นอยู่หรือเปล่า ร้องไห้ตลอด คิดว่าอยากมีคนใหม่ให้มันจบๆไป

ในความเป็นจริงแล้วปัญหาพวกอาจจะมีทางออกก็ได้นะคะ อย่าพึ่งเอาแต่โทษตัวเองลองดูเหตุผลกันก่อน จะได้มองภาพชัดเจนขึ้น

 

เรามาลองดูกันก่อนที่จะเป็นไปได้ว่า สาเหตุที่แฟนไม่ทำการบ้านมีอะไรบ้าง…

  1. เค้าอาจทำงานเยอะ ทำงานจนไม่มีเวลา กลับบ้านมารู้สึกเหนื่อย หมดแรง เลยหมดอารมณ์สภาวะที่ถูกกดดัน และมีเรื่องให้ต้องคิดต้องเครียด เช่นต้องมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย ทั้งดูแลคุณ ดูแลลูก เงินค่าเทอม ไหนจะเรื่องหนี้สินที่เคยกู้มา อะไรทำนองนี้
  2. ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจความรู้สึกผิดความกังวลต่างๆ หรือเป็นไปได้ว่าอาจกังวลเรื่องของตัวเองไม่แข็งตัวก็เป็นได้
  3. อายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่ตามมาโดยทั่วไปเรียกกันว่า”ความตายด้าน”คร้า พออายุเพิ่มมากขึ้น มีโอกาสหย่อนสมรรถภาพทางเพศสูงขึ้นเรื่องของระบบฮอร์โมนเพศลดลง
  4. สภาวะทางสมอง ส่งผลต่อแรงขับทางเพศเช่น มีอาการโรคซึมเศร้า ความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวเนื่องต่อระบบประสาทเช่นเนื้องอกในสมองและเส้นเลือดในสมองอุดตัน
  5. การใช้ยาบางชนิด มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ยาระงับประสาท ยาลดความดัน แอลล์กอฮอล์ นิโคตินจากการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานๆ
  6. มีอาการป่วยเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ โรคปอด โรคไต ตับ มะเร็งบางชนิด เบาหวาน
  7. มีการเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ทำไทรอยด์สร้างฮอร์โมนที่มากหรือน้อยเกินไป

แล้วคุณล่ะ!!

สาเหตุทุกอย่างที่ได้เล่ามานี้เป็นไปได้ที่จะทำให้คุณแฟนของคุณนั้นไม่ทำการบ้านนะคะ ลองสำรวจคู่ของตัวท่านเองดูน้าคะ ว่านี่เข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งหรือเปล่า อย่าเพิ่งไปน้อยอกน้อยใจ แล้วมานั่งจมทุกข์เสียใจเอง มันจะบั่นทอนสุขภาพด้วยนะค้า บทความหน้าจะมาบอกวิธีแก้ปัญหาแฟนไม่ทำการบ้านกันค่ะ รอติดตามนะคะ^^

กดแชร์
Share

ความลับของกลิ่นฟีโรโมน ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

กดแชร์
Share

ความมหัศจรรย์ของกลไกของกลิ่นที่มีผลต่อการรับรู้ของมนุษย์เรานั้นน่าอัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อ

ผลงานวิจัยโดยศาสตราจารย์ Trygg Engen มหาวิทยาลัย Brown University มีการค้นพบ Odor Sensation and Memory ซึ่งก็คือความสามารถในการจดจำกลิ่นของมนุษย์ในระยะยาวนั้น สามารถทำได้มากกว่าการจดจำภาพถึง 10%

และสามารถเชื่อมโยงกับความทรงจำในอดีตได้ สมองของมนุษย์เรามีระบบประสาทส่วนที่รับกลิ่นโดยเฉพาะและจะถูกควบคุมโดย Limbic System ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมความรู้สึกต่างๆ รัก เกลียด ชอบ ทั้งยังสัมพันธ์กับความสามารถด้านศิลปะและดนตรี รวมไปถึง การตอบสนองทางอารมณ์เพศอีกด้วย

ระบบประสาทส่วนนี้จะถูกจดจำไว้โดยกลไกของสมอง ซึ่งสามารถบอกเล่าเรื่องราวไปพร้อมพร้อมกับกลิ่นที่ได้รับในขณะนั้นได้ ทำให้เราสามารถนึกย้อนถึงภาพเรื่องราวในอดีตเมื่อได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นภาพคนรักเก่า สถานะการณ์เก่าๆ ที่เคยอาศัยอยู่ หรือข้าวของที่เคยมีความผูกพันธุ์ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายฉบับที่ชี้ชัดว่า น้ำหอมสามารถช่วยเพิ่มความเป็นปัจเจกของมนุษย์ได้ เพิ่มอารมณ์อยากทางเพศ อารมณ์ความใคร่ ปราถนา ถวิลหา เร่าร้อน และเพิ่มความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์ได้

เมื่อน้ำหอมผสมกับฟีโรโมนในร่างกายเรา จะทำให้ระบบประสาทส่วนควบคุมถูก กระตุ้นและสั่งการไปยังสมองให้ผลิตฮอร์โมนซึ่ง ในปัจจุบันมีการนำมาใช้เพื่อบำบัดรักษาโรคสภาวะทางเพศเสื่อมถอยได้

นอกจากนี้น้ำหอมยังถูกนำมาใช้เป็นศาสตร์ช่วยในการบำบัดภาวะ ความเครียด วิตกกังวล โดยมีการวิจัยการศึกษาเมื่อปี 2010 ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสาร Science พบว่า ผู้ที่สัมผัสกับกลิ่นหอมเป็นประจำจะมีผลภาวะจิตใจที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ช่วยบรรเทาการปวดไมเกรน ปวดศรีษะได้ ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย และยังช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับได้อีกด้วย อีกทั้งเพิ่มความเชื่อมั่น และความมั่นใจในขณะใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีนัยสำคัญ

จากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า 92% มองว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีกลิ่นกายที่หอม บ่งบอกได้ว่า”เค้าเป็นคนที่ดูแลตัวเอง” โดยที่มนุษย์เราในแต่ละคนจะมีฟีโรโมนเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน เมื่อฉีดน้ำหอมลงไปจึงทำให้น้ำหอมเปลี่ยนกลิ่นไปตามฟีโรโมนของผู้ใช้

และด้วยกลไกความลับของกลิ่นที่แตกต่างกันออกไปนี้ มันทำให้คนใกล้ตัว สามารถจดจำกลิ่นเรา ได้มากพอๆกับที่เค้าสามารถจดจำใบหน้าเรา สไตล์การแต่งตัว บุคลิกของเราได้เสียอีก และนี่คือความมหัศจรรย์ของกลิ่นที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อนก็เป็นได้

กดแชร์
Share

น้ำหอมฟีโรโมน คืออะไร? ที่มาที่ไปของตำนานเครื่องหอม

กดแชร์
Share

น้ำหอมและสารหอม ถูกค้นพบมานานกว่า 3,000 ปี ไม่พบหลักฐานที่มาที่แน่ชัด

แต่นักโบราณคดีบ่งชี้ได้ถึงร่อยรอยทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ชัดซึ่งได้จากภาพ Hieroglyphics

อักษรภาพผนังสลักลงบนแผ่นหินตามผนังถ้ำต่างๆนั้น ระบุถึงการปรุงเครื่องหอมเพื่อนำมาใช้ในพระราชพิธีสำคัญๆต่างๆ

โดยเฉพาะการเก็บรักษาความสมบูรณ์ของมัมมี่ ซึ่งมีความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณว่า กลิ่นหอมจะนำมาซึ่ง”ความสุขที่เป็นนิจนิจรันดร์”

ในยุคอียิปโบราณเครื่องหอมจึงถูกนำมาใช้ในรูปแบบของกำยาน (incense) เพราะในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องมือในการสกัด

กำยานและเครื่องหอมถือเป็นของหายาก และล้ำค่ามากเทียบเท่ากับอัญมณีซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงกว่าทองคำด้วยซ้ำ

เพราะในอดีตหลักการของน้ำหนักถูกนำมาใช้เปรียบเทียบมูลค่า

ด้วยเหตุนี้ในยุคแรกๆ กำยานจึงถูกนำมาใช้เฉพาะในพระราชพิธีสำคัญๆ

และใช้สำหรับฟาโรห์เท่านั้น จึงได้มีการบรรจุเครื่องหอมลงไปพร้อมกับร่างกษัตริย์ที่อยู่ในรูปของมัมมี่

ใช้ในการประกอบพิธีบูชาเทพเจ้า จึงนับว่าในสมัยนั้นเครื่องหอมถือเป็นสิ่งเฉพาะที่ผู้มีสิทธิ์ใช้ได้จะมีเพียงฟาโรห์และนักบวชเท่านั้น

 

 

 

ชาวเมโสโปเตเมีย ค้นพบกลไกความหอมที่เกิดจากการ”เผา” คือนำยางไม้ ขี้ผึ้ง เปลือกไม้ ดอกไม้ มาเผาเพื่อให้เกิดกลิ่น

ชาวบ้านมักนำยางไม้ที่มีกลิ่นต่างๆมาผสมรวมกันแล้วนำมาทาตัว

กรรมวิธีการทำกำยาน คือจะนำส่วนผสมหลักจำพวกยางสนที่ให้กลิ่นหอม มาบดรวมกันแล้วนำไปเผาบนถ่านหิน หรือนำมาผสมเข้ากับผลไม้แห้ง เช่นลูกเกด อินทผลัม

แล้วจึงปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ ก่อนที่จะนำไปจุดไฟเพื่อให้กลิ่นหอมของกำยานเป็นควันฟุ้งกระจายออกมาในอากาศ

ตามหลักฐานพบว่าราชินีอียิปต์ในสมัยนั้น พระนาม Hatshepsut ทรงคลั่งใคร้ หลงใหลในกลิ่นหอม พระองค์ได้มีการปรุงน้ำหอมหลากหลายกลิ่นจากดอกไม้ที่นำมาผสมรวมกัน

 

ในศตวรรษที่ 16 น้ำหอมได้แพร่หลายมาสู่ฝรั่งเศส พระราชินีแคทเธอรีน Catherine de’Medici ทรงหลงใหลในกลิ่นหอม และต้องการที่จะพัฒนากินหอมใหม่ใหม่ ถึงกับสรรหาวัตถุดิบในการผลิตน้ำหอมอย่างหลากหลายทั่วประเทศ พระองค์ประทานตำแหน่งช่างปรุงน้ำหอมส่วนพระองค์ สร้างการทดลองห้องทดลองในพระราชวังเพื่อการผลิตน้ำหอมโดยเฉพาะ นี่คือจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมน้ำหอม มาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ ซึ่งในสมัยนั้นมีการผลิต ถุงมือ ถุงน้ำหอม เป็นยุคแห่งแฟชั่นของของถุงมือหอมเลยทีเดียว ทำให้ ” สภาของเทรนท์ ” ( Council of trent ) เปิดจำหน่ายน้ำหอมเป็นธุรกิจสมัยนั้นเนื่องจากความต้องการที่มหาศาล

ในศตวรรษที่ 17 กระบวนการขั้นตอนการสกัดน้ำหอมเริ่มที่จะทันสมัยมาขึ้น มีการคิดค้นกรรมวิธีมากมาย ให้ได้มาซึ่งกลิ่นยอดนิยม อย่าง ซีเวต (Civet) และมัส (Musk) เป็นกระแสแฟชั่นที่นิยมมาก ด้วยกลิ่นที่หอมหวานของดอกไม้และผลไม้ มีกลิ่นใหม่ๆกำเนิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสมัยนั้นจะนำไขสัตว์ มาใส่ในถาดแล้วนำดอกไม้ มาวางเรียงทับเพื่อให้เกิดเป็นกลิ่นที่คงทนมากยิ่งขึ้น นับได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกกระบวนการการสกัดที่ได้มาซึ่งความหอมที่ติดทนนาน และได้กลายเป็นแฟชั่นที่ได้รับความพึ่งพอใจในกลิ่นที่หอมหวาน และเกิดเป็น”หัวน้ำหอม”หรือ”แม่กลิ่น”ในยุคนั้น

ในศตวรรษที่ 18 มีการ ผลิตขวดน้ำหอม เพือใช้ในอุตสาหกรรมนี้ มีการเติมน้ำหอมลงไปในถ่านร้อนๆ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม ในวันที่เรียกกันว่า “Ash Wednesday” เถ้าถ่านแห่งวันพุธ ความเจริญก้าวหน้าในด้านอุตสาหะกรรมเคมี จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ทำให้มีการผลิตน้ำหอมสังเคราะห์ การผลิตน้ำหอมในเชิงทางการค้าได้อุบัติขึ้นในฝรั่งเศส ณ.เมืองกราเซ (Grasse) น้ำหอมความหรูหราความก้าวหน้าเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 20 จนได้เข้าสู่สมรภูมิการค้าที่ปราศจากความปราณีในยุคปัจุบัน

 

 

จุดเริ่มต้นของ ฟีโรโมน(Pheromone)

จุดเริ่มต้นที่มาของ “ฟีโรโมน” มาจากการสังเกตุพฤติกรรมของแมลง ซึ่งพบว่าแมลงบางชนิดจะปล่อยสารชนิดหนึ่งออกมาเพื่อเรียกความสนใจจากเพศตรงข้าม

พฤติกรรมบางอย่างถูกใช้ร่วมกับฟีโรโมนอย่างมหัศจรรย์ ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของผึ้งนางพญากับผึ้งตัวผู้ ซึ่งจะผสมพันธุ์กันกลางอากาศ ก่อนที่จะมีการผสมพันธุ์

ผึ้งตัวผู้จะบินออกไปรวมกลุ่มกันก่อน “จุดรวมผึ้งตัวผู้” ทันทีที่ได้กลิ่นจากผึ้งนางพญา ผึ้งตัวผู้จะบินตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ตัวแรกที่บินไปถึงก่อนจะมีโอกาสได้ผสมพันธุ์กับผึ้งนางพญา เมื่อผสมพันธุ์เสร็จแล้ว อวัยวะสืบพันธุ์จะขาดออกจากตัว ทำให้ตัวผู้ตกลงมาตาย นางพญาผึ้งจะสลัดอวัยวะออกทันทีและสัมพันธ์กับผึ้งตัวผู้ตัวต่อไปจนครบ 10 ตัว จึงจะบินกลับรัง

กลิ่นที่นางพญาผึ้งปล่อยออกมานั่นแหละคือกลิ่นสารเคมีชนิดหนึ่ง หรือที่เรียกว่า “ฟีโรโมน

ฟีโรโมน คืออะไร

ฟีโรโมน(Pheromone) เป็นคำที่มาจาก คำภาษากรีก มาจากรากศัพท์ มีคำ2 ด้วยกันคือ

Pherein แปลว่า นำมาหรือส่งต่อไปให้

Hormone แปลว่า คือ สิ่งเร้าเป็นต้นเหตุของอาการตื่นเต้น ตื่นตัว ปลุกเร้าอารมณ์และความรู้สึก

ฟีโรโมน (Pheromone) เป็นสารเคมีในร่างการชนิดหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์และพืช สามารถผลิตขึ้นเองได้ด้วยการหลั่งหรือขับออกมา ทำให้เกิดการกระตุ้นตอบสนองมีผลต่อพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตในสปีชี่ส์เดียวกัน ฟีโรโมนจึงเป็น สารเคมีรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเช่น ฟีโรโมนเตือนภัย ฟีโรโมนย่อยอาหาร ฟีโรโมนเพศ เป็นต้น

ฟีโรโมนเพศสามารถไปกระตุ้นปลายประสาทบางส่วนในสมอง ส่งผลต่อพฤติกรรมและปฏิกิริยาต่างๆในมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์อธิบายถึง ฟีโรโมน เป็นกลไกของสมองส่งผลต่อฮอร์โมนเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เพื่อให้เกิดการสืบทอดดำรงเผ่าพันธุ์ ซึ่งสัมพันธ์กับสมองส่วนที่คุมอารมณ์ความรู้สึก สัญชาตญาณแต่กลไกการทำงานของสมองส่วนนี้มีความไวมากกว่าสมองส่วนที่เป็นตรรกะ ความคิด ความเฉลียวฉลาด จึงเป็นที่มาของการสรุปข้อสันนิษฐานว่า การรับกลิ่นของคนเรา มาก่อนตรรกกะการใช้เหตุผล ชอบก็คือชอบ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องชอบ

เมื่อกลิ่นกายหรือฟีโรโมน เป็นส่วนสำคัญของการสืบพันธุ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักปรุงน้ำหอม Perfumer จะต้องสรรหาวัตถุดิบที่มีลักษณะพิเศษของกลิ่นที่มีความเทียบเคียงหรือคล้ายกับกลิ่นของฟีโรโมนที่มนุษย์สร้างขึ้น

กลิ่นอวัยวะใต้ร่มผ้า ตั้งใจจะให้ออกมาคล้ายกลิ่นเป้ากางเกงของคุณผู้ชาย มีส่วนผสมของกลิ่นกล้วยไม้และเห็ดทรัฟเฟิล น้ำหอมท่านหลายๆแบรนด์ถูกนำมาทำเลียนแบบกลิ่นเหงื่อที่อาบชโลมผิวกาย โดยใช้ยี่หร่าเป็นส่วนผสมให้กลิ่นสาบคล้ายรักแร้มนุษย์

และนำกลิ่นจากต่อมบริเวณใต้ท้องกวางชะมด (musk) สำรอกของปลาวาฬ sperm whale(ambergris) และกลิ่นจากต่อมใกล้ทวารหนักของชะมดเช็ด (civet) สกัดเพื่อมาใช้ในส่วนผสมมากมาย กลิ่นเหล่านี้เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและใช้แค่เพียงนิดเดียวสามารถชูกลิ่นหอมประเภทอื่นๆให้กลมกล่อม ให้ละลายมากขึ้นเสมือนเป็นผงชูรสของความหอมเลยก็ว่าได้ และยังช่วยให้น้ำหอมนั้นติดทนนานมากยิ่งขึ้น

น้ำหอมกลิ่นชะมด (Musk) ได้มาจากต่อมของชะมดตัวผู้ ตรงบริเวณท้องและอวัยวะเพศ muṣká คือ อัณฑะ เป็นแหล่งรวมสารหลายอย่างที่มีกลิ่นคล้ายๆกันแม้ว่าจะมีโครงสร้างทางเคมีต่างกัน และอาจจะเป็นสารที่ได้จากสัตว์อื่นที่ไม่ใช่กวางมี อาจจะได้จากพืช เป็นกลิ่นที่เชื่อว่าคล้ายกับกลิ่นฟีโรโมนมนุษย์

ชะมดเช็ด (civet) ชะมดเช็ด ชะมดเชียง มูสัง (Indian small civet)  เป็นชะมดขนาดเล็ก ขาสั้น หูทั้งสองข้างอยู่ใกล้กัน เมื่อมองไกล ๆ อาจคล้ายแมว ลำตัวสีน้ำตาลเหลืองมีจุดเล็กๆสีดำทั้งตัว ปลายหางมีสีขาว ขาหลังมีต่อมกลิ่นที่ใช้สื่อสารระหว่างพวกเดียวกัน หรือลักษณะกลิ่นคล้ายฟีโรโมน

Ambergris อัมพันทะเล หรือสำรอกปลาวาฬ

Ambergris อัมพันทะเล หรือสำรอกปลาวาฬ คือ “อึ/อ้วก” ของวาฬ (ขึ้นอยู่กับว่ามันจะออกมาทางไหน) ขับถ่ายออกมาจาก “วาฬหัวทุย” โดยวาฬชนิดนี้มักกิน “หมึก” ไขมันหมึกที่ย่อยสลายไม่ได้จะถูกสะสมบริเวณลำไส้และถูกขับถ่ายออกหรือไม่ก็สำรอกออกมา โดยเมื่อแรกที่ถูกขับจะมีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือนหรือเป็นปี ได้เกิดปฏิกิริยากับอากาศแสงแดด ระหว่างล่องลอยอยู่ในทะเล แต่ด้วยค่าความถ่วงจำเพาะที่มีน้อยกว่าน้ำทะเลจึงมีคุณสมบัติทางเคมีเปลี่ยนไป ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งสีขาว น้ำตาล เทา หรือดำ ตามระยะเวลาในการทำปฏิกิริยาจนหายเหม็นแล้ว จะมีกลิ่นหอมคล้ายสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัดหัวน้ำหอม หรือนำไปแต่งกลิ่นในอาหารหรือไวน์ เป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้อำพันมีมูลค่าสูงมากถึงกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท

กดแชร์
Share

5 สุดยอดเคล็ดลับ จีบผู้ชายยังไงให้ติด แน่นอน!

กดแชร์
Share

อยากเสกผู้ชายให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือนั้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

สวัสดีสาวๆที่น่ารักของพี่ทุกคน ทู้นี้พี่ปูเป้จิมาเผยทีเด็ดของการเป็นนักล่าที่น่ารัก สำหรับสาวๆที่ “อยากได้ผู้ชาย เอ้ย ไม่ใช่สิฮร้ะ อยากจีบผู้ชาย แต่ไม่รู้ต้องเริ่มยังไง” แนวว่าน้องนั้นเป็นสุภาพสตรีกุลชะนีไทย ที่มิเคยเร้ย มิเคยเรย จะได้อ้อยแอ๊วผู้ชายเลยข่ะ หรืออาจเคยตั้งคำถามกับตัวเองแบบละครพีเรียดนิสๆ “ทำไมคะ ทำไม ทำไมกัน หญิงมันไม่ดีตรงไหน ท่านเจ้าคุณถึงไม่สนใจหญิง ไม่มีใจให้หญิงสักที” อะรัยแบบนี้

หญิงคะ ชะนีพี่จะบอกน้องหญิงคนงามว่า ไม่แปลกหรอกค่ะ ชาวบ้านเขาก็เป็นกันนะคะ เคล็ดลับวิชาการอ้อย แอ๊ว ให้ได้ผู้ เนี่ยะ มันมีอยู่จริง มันใช่ไม่โชคชะตานำพาเรามาพบกัน รอชะตาฟ้าลิขิตแต่เพียงเท่านั้นนะคะ เราต้องช่วยลิขิตตัวเองด้วย เปลี่ยนลิขิตฟ้าให้เป็นลิขิตรัก แหม่ะ มาซะเป็นซีรี่เกาหลีช้ะ เผื่อว่าน้องนีที่รักทั้งหลายที่ว่างๆ โสดๆ เหี่ยวๆ เปลี่ยวๆอยู่จะได้จะโดน ปุ๊บปั๊บรับโชคกันกะเค้าบ้างนะนู๋ แต่หญิงพี่ต้องบอกก่อนนะคะว่า ขอสงวนภายใต้เงื่อนไขคือว่าหญิงน้องต้องรู้แน่ก่อนนะเจ้าคะว่า เขาเป็นชาย ชายแท้ๆ ชายจริงๆ เขาชอบผู้หญิงไม๊? ถ้าสเปกเขาคือชะนีก็โอเคร ถ้าเขาเป็นใบหนาด? หรือใบตอง? หล่อนก็น่าจะลำบากหน่อยนะจ้ะ อ้ออ!! เชคด้วยนางมีเมียย๊าง เอาให้แน่ให้นอนก่อน ให้โสดจริงๆ นับว่าโอเครข่ะ สมัยนี้จงอย่าได้นิ่งนอนใจ อะไรก็เกิดขึ้นได้แม้จะไม่ได้มีปาปริก้า เริ่มจากนู๋อาจจะลองส่งหน่วยสวาทลาดตระเวนออกไปซิ๊คะ หาวิธีรู้มาให้ได้ว่าเคลียร์ไม๊ ทางสะดวกป่าว ถ้าส่งสัญญาณว่าเคลียร์ก็ลุยยเลยจ้า! ยกพลขึ้นบก ยึดใจเธอให้เธอให้หมด~ อวร้ายยยยย บอกอายุมากกกคุณขา

เริ่มต้น 5 เคล็ดวิชา หว่านเสน่ห์สะท้านแผ่นดินค่ะ

1.อ่านผู้ชาย ต้องอ่านให้ขาด

อ่านเค้าให้ออก ตีโจทย์ให้แตกจ่ะ แล้วเราจะแก้สมการได้ ดั่งที่โบราณว่าไว้ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งกระดาษขาดนะฮร๊ะ เอ๊ะ ไม่ใช่สิห๊ะ คือเราต้องรู้ก่อนว่า “ผู้ชายน่ะ เขาดูอะไรในตัวผู้หญิงบ้าง?” เขาจะพิจารณาผู้หญิงแบบไหน เราต้องฝึกสังเกตุสังเกลานะคะ เราต้องรู้จัก ค.ว.ย นะคะนู๋ …. คิด วิเคราะห์ แยกย้าย!!! เอิ่บ แยกแยะไหมล่ะคุณ วิเคราะห์พฤติกรรมเค้าให้ออกเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ประมาณ 100% ………. เอิ่บ เดี๋ยวๆ 100% เขาไม่เรียกส่วนใหญ่ไหมล่ะคุณ เขาเรียกผู้ชายทั้งหมด! อ่ะ! จะหนึ่งหน้าละ สาระยังไม่มา 😂 เค้าขอโต๊ดนะเตง จะไม่เล่นละ !!! เราจะเริ่มเข้าเรื่องจริงๆล้ะนะคะ เอาเป็นว่าผู้ชายประมาณ 90% เขาจะชอบผู้หญิงที่มีบางอย่างที่คล้ายกับตัวเอง เช่น รักสัตว์เหมือนๆกัน เป็นชะนีใจดีมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น หรือเป็นคนสนุกสนานชอบเล่นมุกตลก เป็นคนตั้งใจจริงจังกับงาน เล่นหุ้น รักการท่องเที่ยว (เห้ยยย นี่มันชั้ลชัดๆนี่คะ?) อะไรทำนองเน้ หรือกระทั่งเรื่องอื่นจิปาถะป๊ะเทิ่ง ที่เราและเค้าสนใจอะไรคล้ายกันๆ ให้สังเกตุเค้าให้ดีๆ เพราะเรื่องพวกนี้มันเป็นสิ่งที่จะสั่นขาเก้าอี้เค้าได้ อาจทำให้เค้ารู้สึกหวั่นไหว สับสน ไขว่เขวได้ พวกหล่อนต้องแปลงร่างเป็นแม่จิ้งจอกสาว สุ่มดูเหยื่อเอาไว้ รอโอกาส … จังหวะมาเมื่อใด วิ่งเข้าตะคลุบเหยื่อเรยจ้า แต่ยังมิพอ ต้องสังเกตุภายนอกด้วย เช่นว่าสไตล์การแต่งตัวเขาเป็นยังไง ทุกเช้าดื่มกะแฟร้านไหน หรือไม่ทานข้าวเช้าเลย นางแต่ตัวยังไงสไตล์ไหน เท่ห์ๆเซอร์ๆหรือหลายแนว ถ้าคนแต่งเนี๊ยบๆลุคผู้ดีๆหน่อย นางก็จะชอบสตรีศรีที่ดูแลตัวเอง รู้จักแต่งตัวแต่งหน้า ก่อนออกบ้าน ไม่ใช่ปล่อยเป็นอีเพิ้งเมายามาทำงาน มิไหวนะฮร้ามิงาม แต่ถ้านางมาแบบเซอร์ๆแนวๆติสๆหน่อย ชอบฟังเพลงเร้กเก้ไรงิ๊ หล่อนก็แต่งแบบชิวๆสบายๆ ทำทีว่าเรามันคอร์เดียวกันข่ะ ไม่ต้องไปเริ่ส เชิ่ดใส่เค้ามาก ตีเนียนๆไป ไปหาอ่านเก็บข้อมูลเกี่ยวกะเรกเก้ ไรงี๊ จะได้มีเรื่องให้ได้ทอคกันต่อได้ สังเกตสีหน้า แววตา ความสนใจว่ามีให้เราหรือไม่ มีหันสบตาบ้างหรือเปล่า ตีเนียนเนียนไปก่อนนะคะ step แรกนี้อย่าพึ่งกระโตกกระตากให้เขารู้ได้ว่าเรากำลังสนใจเค้าอยู่ อย่าเพิ่งให้ได้ตั้งตัว แล้วไปต่อกันเสต็ปต่อไป

2.รู้วิธีเข้าหา ไร้เดียงสาเข้าไว้

ขั้นตอนนี้สำคัญนะแกร ถ้าใช้วิธีไม่เป็น ไก่ตื่นแล้วจะ จอบอ!นะจ้ะ รับไปประกาศแล้วแยกย้ายไปสมัครงานเลยจ้ะ ชะนีพี่แนะนำว่า วิธีการเข้าหาที่เกร๋ ง่าย ดูดี สวยยย ดูไม่แรด ไม่โฉ่งฉ่าง และมีข้ออ้างให้ได้สานต่อคือ”อ้างเรื่องงาน” หรือ”เรื่องเรียน””เรื่องความบังเอิญให้มีโอกาสได้เจอกัน ดั่งโชคชะตา” อาจมีวิธีถามพี่ให้ได้คำตอบโดยที่เขาไม่ต้องบอกก็ได้ เช่น ปกติออกกำลังกายบ้างไหมคะ อ้าวตีแบตด้วยหรอ ชอบตีแบดเหมือนกันเลยอะ เมื่อก่อนไปกับเพื่อนแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเพื่อนไปตีกันเลย เอาไว้ถ้าจะไปชวนเราบ้างนะ อะไรทำนองนี หรืออออ อารมณ์บับว่าเข้าไปขอคำปรึกษา ต้องการการช่วยเหลือ ผู้ชายน่ะ นางจะมีสัญชาติญาณของความเป็นผู้นำอยู่แล้ว ให้หล่อนทำทีว่าโง่ๆอึนๆมึนๆโก๊ะๆหน่อย เข้าไปใกล้ชิดด้วยการ เข้าไปขอความช่วยเหลือแบบเบาๆ ย้ำ! แบบเบาๆนะจ้ะนู๋ว อิเจ้เคยแนะนำเพื่อนไป เพื่อนเจ้ชื่อทราย มันเข้าไปบอกเค้า “พี่หนึ่งคะนู๋ขอความช่วยเหลือหน่อยนะคะพอดีนายให้ทำพรีเซ้น พี่ช่วยทำให้นู๋หน่อยได้ไหมคะ ขอภายในพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงนะคะถ้าเกินเที่ยงนู๋ตายแน่เลย นู๋ขอเบอร์หน่อยค่ะเดี๋ยวคืนนี้หนูโทรไปหาว่าพี่ทำไปถึงไหนแล้ว” อว๊อยยย นี่มันเรียกว่า จิกหัวใช้เขาค่ะดีออก ขอแค่ดูเบาๆสวยสวยพอ “แนะนำเรื่องนี้ให้หนูหน่อยได้ไหมคะ พอดีไม่เข้าใจเลย หนู ตั้งใจมาปรึกษาพี่เลยน้า …. ” อะไรอย่างนี้พอ! อ้อนๆหน่อยๆ ขี้เล่นหน่อยๆ เข้าหาวิธีนี้จะสื่อได้ว่า เราเห็นเขาเป็นคนสำคัญ เป็นการชมแบบนัยๆโดยไม่ต้องใช้คำพูด ว่า”พี่น่ะ น่าร้ากจัง เก่ง ดูดี ฉลาดแนะนำช่วยเหลือเราได้ แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ เธอไม่รู้บั้งเลอ” แต่ในใจนึกไว้เสมอ “หึ!เสร็จชั้ลแน่ แกเอ๊ยย”555 การเข้าหาในจังหวะแรกๆ อย่าเพิ่งออกตัวแรง อย่าพูดฉอดๆๆ อยู่ฝ่ายเดียว ไม่ใช่ว่า เล่าหม๊ด หมดชีวิตที่ผ่านมา ชั้ลเป็นยังไง อะไร -“- ให้เค้าพูดบ้าง แล้วทิ้งบางอย่างไว้ให้เค้าสนใจ อยากคนหา อยากรู้จักเรามากขึ้น เช่น “พี่คะ นู๋อยากรบกวนพี่ช่วยแนะนำเรื่องทำการตลาดหน่อยน่ะค่ะ ถ้ามีสไลด์ ให้เลือกสองแบบคิดว่าแบบไหนน่าจะเหมาะมากกว่ากันคะ อยากให้พี่ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ปรบมือเบาๆยิ้มอ่อน โอ้วว! คิดเหมือนกันเลยหนูก็ว่าแบบนี้เหมือนกัน แบบนี้หนูทำงานง่ายเลยขอบคุณมากๆเลยนะคะ” สวย ดูน่ารัก ไร้เดียง หาเรื่องคุยได้เรื่อยๆ แกล้งสงสัย ถามนั่นนี่ไป ตีเนียนให้รู้สึกคุ้นเคย กรณีนี้ใช้ได้กับผู้ชาย ที่เป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่หรือคนใกล้ตัวนะจ้ะ แต่!!! ในกรณีที่เจอ”ผู้ชายป๊อบทีน” แบบเห็นแล้วปิ๊ง ใส่แล้วป๊อบ” รักแรกพบ เจอแล้วบับ ปิ๊งเลย! เจอตามงาน เจอตามผับ เห็นแล้วนั่งสองขาคู่อ่อนระทวย โอ๊อยยยย~คนนี้ใช่เลย อยากจะพุ่งหลาวเข้าไปติดป้าย”จอง” มันจะแลโจ่งครึ่มเกินไป อาจทำทีว่าโทรศัพท์หาย หาไม่เจอแล้วเข้าไปแอบขอยึ๊ม โทรศัพท์หน่อยแบบนี้ก็ได้ “ขอยืมโทรศัพท์โทรออกหน่อยได้ไหมคะ” แล้ววิ่งหนีหายเชิ่ดโทรศัพท์เขา หายหัวไปเลยจ้า ตัดภาพมาที่มาบุญครอง ยืนขายโทรศัพท์ผู้อยู่หน้าตู้ ดั่ง สุภาษิตที่ว่า “อย่ารักใครเพียงแค่เงินทอง ให้ลักข้าวลักของ ของเค้ามาด้วย” เดี๋ยวๆ.. มันใช่ระ ไม่ใช่แระมะ พอเรามีเบอร์ซึ่งกันและกันทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้น

3.เรียกร้องความสนใจให้เป็น

การเรียกร้องความสนใจเป็นระยะระยะ รู้จักส่งยิ้มให้บ้างบางเวลา เป็นฝ่ายเริ่มทักเค้าก่อนบ้าง จะเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ดูซอฟ สวย ไม่โตกตาก

คุณน้องบางคนอาจจะคิดว่าโอ้ยยยไม่ได้ดอกค่าอิเจ้ ทักก่อนได้ไง เดี๋ยวเค้าหาว่าเราแรด… เจเจ้จะบอกว่า “เราแรดตั้งแต่อ่านกระทู้นี้แล้วจ้า 555+”

อย่าได้เรียกว่าแรดค่ะ จงเรียกว่า เรากำลังบริหารเล่มเกวียนอยู่จะดีกว่า

เราต้องทำตัวให้เหมือนเป็นปกติมากที่สุด แสดงความเป็นมิตรที่น่ารักด้วยการ ส่งยิ้มให้ สวัสดี ทักทาย ชวนคุยเรื่องลมฟ้าอากาศบ้างเป็นการกรุยทางที่โอเค

ใช้สายตาให้เป็นประโยชน์ แต่ไม่ต้องจองเหมือนอยากจะกลืนเค้า แม้เราต้องการมากก็ตาม!! 555 โอเคนะคะ

เขิลได้บ้างแต่พองาม ไม่ต้องม้วนบิดไปบิดมาจนคนรอบข้างต้องถามว่าเอา”ซีม่า”ไหมค๊ะ ทาแก้คันหน่อยไม๊ ไม่ได้นะฮร้า

อาสาช่วยเหลืออะไรที่พอจะช่วยเค้าได้ก็จะดูเป็นหญิงจิตใจงาม ดั่งคำกล่าวที่ว่า “เพราะความรักคือการให้!!!

ให้เบอร์ก็ได้ ให้ไลน์ก็ดี ….” อ๊ะช๊ะ อันนี้ซ้อมก่อนเพื่อเอาไปต่อในขั้นตอนต่อไปนะจ๊ะ

4. หยอดบ่อยๆ อ่อยเรื่อยๆ

หยอดแบบทีเล่นทีจริง เรื่องนี้มันจะแนะนำกันลำบากหน่อยนาจา เพราะบางคนไม่ใช่แนวนี้จริงๆ

คุณพี่เข้าใจนีน้อง เลยแนะนำว่าลองหัดเล่น “มุกแบบไหลตามน้ำ”ไปก่อน ก็ได้เพราะบางคนไม่มีพื้นฐานด้านนี้จริงๆ

สมมุติว่าเพื่อนๆสนิทเรา รู้ว่าเราแอบๆเล็งใครอยู่ แอบปลื้มปริ่มใครอยู่ มันก็อาจจะมีการแซวเล่นกันเกิดขึ้น …

เนียนๆฮาๆทีเล่นทีจริงไป หาเรื่องมาแซวมาหยอดหรือเรื่องตลกมาแหย่ เค้าจะได้รู้สึกคุ้นเคยกะเรามากขึ้น

5. คนที่ดูแลตัวเองดี เค้าก็จะดูแลเราได้ดี

คุณพี่ต้องบอกว่า รูป รส กลิ่น เสียง การรักษาภาพลักษณ์ทุกอย่างมีผลหมดนะค้านู๋ววววขา

โดยรวมสิ่งภายนอกมันเป็นสิ่งที่เค้า จะจดจำได้และใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผู้หญิงด้วย

สำหรับผู้ชายทุกคน อย่าเพิ่งเข้าใจว่า ผู้ชายทุกคนต้องชอบผญ.ที่ขาว สวย หุ่นดี นมโต เสมอไป แม้ว่าส่วนใหญ่จะชอบแบบนี้ แต่พี่ก็ไม่ได้แนะนำให้ไปถึงขั้นต้องศัลยกรรมเกาหลี หน้าเป๊ะ ตาโต คางแหลมทิ่มลูกโป่งแตกแบบตุ๊กตาบาร์บี้ ผู้ชายบางคนเค้าก็ไม่ได้ชอบแบบนั้นที่จะพูดเสมอเลยว่าผู้ชาย 10 คนมองผู้หญิงสวยไม่เหมือนกัน ฉะนั้นอย่าได้วอรี่ บางทีชะนีที่ไม่ได้สวย ไม่ได้ขาว นมไม่โต แต่มีลักษณะดูเป็นมิตร น่าเข้าหา ยิ้มแย้มแจ่มใสก็คว้าไปรับทานหมดน๊ะจ้ะจะว่าไปแต่เหนือสิ่งอื่นใดเราก็ต้องดูแลตัวเองนะคะลูก ทาคงทาครีม หน้าพยายามอย่าปล่อยให้เป็นสิว หน้าตาแลสะอาดสอ้าน การแต่งตัวดูเข้าถึงง่าย ไม่ต้องมาชุดเว่อวังอลังการ เหมือนจะไปออกงานกาล่าดินเนอร์ขนาดนั้น ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะแต่มันเข้าถึงยากบางทีชุดเว่อร์มากไปผู้ชายไม่กล้าเดินด้วยนะคะบอกเลย เรียบหรู ดูเป็นมิตร สไตล์การแต่งตัวมีผลมากเหมือนกัน เพราะมันเป็นเฟิร์สอิมเพรสชั่น เป็นรูปลักษณ์ที่ดี มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ มันช่วยให้บุคคลิกภาพดูดีขึ้นมาก มากๆเลยจริงๆสำหรับพี่นะ ได้กลิ่นจากคนที่ใช้น้ำหอมแล้วรู้สึกว่า “เค้าคนนั้นเป็นคนดูแลตัวเอง”พี่ถึงย้ำว่า คนที่ดูแลตัวเองยังไม่ได้ แล้วจะไปดูแลใครได้(ดังนั้น ผู้ชาย(หรือผู้หญิง) คนที่ดูแลตัวเองดี เค้าก็โอกาสสูง ที่จะดูแลเราได้ดี เช่นกัน)พี่ย้ำเลย การเลือกผู้ชายก็เช่นกัน ถ้าเราเลือกผู้ชายที่เค้าดูแลตัวเอง 90% เค้าจะเป็นคนที่ดูแลเราได้ แต่คนมีครอบครัวก็จะดูแลครอบครัวได้เชื่อพี่สิ เรื่องกลิ่นมีผลมากนะ วันนึงพี่เดินผ่าน ผู้หญิงคนนึง คือกลิ่นหอมที่ตัวนางลอยติดมาเตะจมูก เห้ยยยย หอมมากถึงกับชะงักเหลียวหลังกลับไปมอง เพื่อนผู้ชายพี่ที่เดินไปด้วยกัน ถึงกับพูดเลยอ่ะ “กลิ่นแม่มหอมมาก อยากเห็นหน้าเลยหว่ะ!!”เค้าเดินผ่านไปเห็นแค่ด้านหลังของนางคนนั้น ก็เดาก่อนเลยว่านางเป็นคนดูแลตัวเองแน่นอน บุคลิกดีขึ้นกว่า 50% ละผู้ชายก็เหมือนกันนะ พี่เคยเดินผ่านผช.คนนึง กลิ่นดีมว้ากกกก แม้ว่าเค้าจะหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา ตัวอ้วนๆหน่อยนะ ดูการแต่งตัวกลางๆแต่บอกตรงๆดูแบบเป็นคนมีกะตัง จากกลิ่นนะ ดูรวย และเทสดี คือดูแพงมาก เดินผ่านแล้วคือบับ อยากหันไปมองอะหน้าไม่ดี กลิ่นดี คือคุณดูดีเกินครึ่งแล้วอะยิ่งถ้าหน้าดีแล้วกลิ่นดีด้วยนะ โอ้ยยยยย ละลายไปเถิอดข่าาาโซ๊ยเลย กระเทยตำจ้า แซ่บแน่นวล!ส่วนตัวชอบนะผู้หญิงที่ใช้น้ำหอมกลิ่นผู้ชาย คือดีงามมากมันเหมือนเป็นผู้ชายที่มีบุคลิกดี ได้กลิ่นแล้วเหมือนใส่สูท แต่แฝงความอ่อนโยนของกลิ่นผู้หญิงเข้าไปด้วย กลิ่นเย็นๆละมุนๆนะ เคลิ้มๆไรงี้พวกน้ำหอมฟีโรโมนแบบนี้บอกเลยว่า เริ่สจ้าาาาา!!

กดแชร์
Share

Follow Me เทคโนโลยีเพื่อคงความหอม ที่หอมยาวนานกว่าน้ำหอมทั่วไป

กดแชร์
Share

จากที่เราทดสอบความคงทนของกลิ่นหอมมาหลายต่อหลายครั้งจากในห้องปฏิบัติการ และจากคลิปที่ได้รับชมกันไปผ่านทางเวปไซด์ จนเรามั่นใจคุณภาพก่อนส่งต่อถึงมือผู้บริโภค

Follow Me เราได้นำเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้กลิ่นหอมนั้นติดทนยาวนานขึ้น ด้วยนวัตกรรมด้าน “นาโน เอนแคปซูเลชัน (Nano-encapsulation)” ระดับโลก ซึ่งเป็นการสร้างเปลือกห่อหุ้มสารออกฤทธิ์ ใช้เป็นระบบกักเก็บแบบ  double barrier เป็นการปลดปล่อยผ่านทั้งการแตกพันธะเคมีและการแทรกตัวผ่านเปลือกอนุภาคนาโนออกมาในระดับนาโนเมตรที่ (10 กำลังลบ 9)

นาโน เอนแคปซูเลชัน ถูกนำมาใช้เพื่อ แก้ปัญหาความไม่เสถียรของสาร และควบคุมภาวะการปลดปล่อยสารที่ถูกกักเก็บไว้อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามระยะเวลาที่ต้องการ ทำให้กลิ่นที่ได้มีความหอมที่ซับซ้อนปละคงทนต่อสภาวะมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนจัด หรือร้อนชื้น แสงแดดและมลภาวะ ซึ่งเป็นที่มาของความเสื่อมของผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์ธรรมชาติถูกนำมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระดับนาโน ช่วยตรึงกลิ่นไว้นานยิ่งกว่าเดิมถึง 300 เท่า และมิตรต่อร่างกายคน  สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดการระคายเคืองผิว และ นาโน เอนแคปซูเลชัน นี้ยังมีความสามารถพิเศษ ที่สามารถเก็บปริมาณความความจุได้มากกว่าเดิมถึง 6 เท่า เสถียรภาพสูงไม่เปราะแตกง่าย มีความคงตัวสูงอย่างมีนัยสำคัญ

จึงทำให้น้ำหอมของเราให้กลิ่นหอมที่ยาวนานมากกว่า 8-10 ชั่วโมง

กดแชร์
Share

น้ำหอม”ตลาดนัด”กับน้ำหอม”แบรนด์”ต่างกันตรงไหน?

กดแชร์
Share

นั่นสินะ ต่างกันยังไง เป็นคำถามที่หลายคนคงสงสัยมาก เราเองก็เคยไปถามคำถามนี้กับคนอื่นเหมือนกันจ้าาา แล้วก็เคยลองซื้อมาเทสเองแล้วด้วย เลยจะขอมาแชร์ความเห็นส่วนตัวเรื่อง ความแตกต่างของน้ำหอมคุณภาพกับน้ำหอมตลาดกันค่า

1.ราคา แน่นอนล่ะจ้า ราคาต้องต่างกันสิจ๊ะ ไม่งั้นจะเอามาเทียบกันได้ยังไง น้ำหอมตลาดนัดก็มีราคาตั้งแต่ cc ละบาท จนถึงบางทีเป็นโรคติดต่อต้องเข้าโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวๆ นั่นมัน cc ระบาด!! จะเรียกว่าระบาดก็ได้นะ เพราะเราจะเห็นได้เกือบทุกตลาดนัดเลย ราคาตั้งแต่ ซีซีละ 1 บาทถึง 4 บาท ก็มี ก็จะมีขายขวดแยกให้ ราคาขวดก็มีตั้งแต่ 10 บาท 15 บาทจนถึง 40 บาทค่ะ นางก็จะเป็นขวดที่หน้าตาละม้ายคล้ายๆกันหมดทั่วแคว้นแดนสยาม สังเกตได้ง่ายง่ายก็จะเป็นขวดสีสันต่างๆนุ่นนั่นนี่ คุณภาพขวดก็ตามราคา ความใสของขวดก็ตามนั้น เค้าจะนับตามสี่สีแบ่งขายใส่ขวดลงไป บางทีถ้าต่อซีซีราคาสูงมากก็แถมขวดให้ฟรีก็มีค่า ส่วนด้านของราคาน้ำหอมแบรนด์เนมหรือน้ำหอมคุณภาพก็มีตั้งแต่ตลาดกลางถึงตลาดบน พวกเคาน์เตอร์แบรนด์ต่างๆ ส่วนใหญ่ประมาณ 90% ก็จะเป็นน้ำหอมนำเข้าจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมการผลิตน้ำหอมแบบดั้งเดิมมีโรงงานผลิตหัวเชื้อน้ำหอมขนาดใหญ่และจำนวนมากที่สุดในโลกพวกเทคโนโลยีในการสกัดก็จะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง แน่นอนว่าคุณภาพที่ได้ก็คงจะดีมากและราคาก็สูงตามเช่นกัน นอกนี้เขาจะต้องอิมพอร์ตเข้ามามันก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องการขนส่ง แลรวมถึงค่าแวเฮ้า ที่จัดเก็บ เช่นพวกห้องเย็นเก็บอุณหภูมิ ค่า package ถุงบรรจุซีล บุแพคมาอย่างดิบดีขนส่งทางเรือ แน่นอนว่าราคาก็ต้องแตกต่าง เพราะมีค่าlogisticต่างๆเข้ามาด้วย บวกกับค่าการตลาดเข้าไปอีก นั่นจิยังไม่พอ น้ำหอมนี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ผลิตและจัดจำหน่ายในเมืองไทยก็จะโดนทั้งสรรพากรและสรรพสามิต เฮสนั่นไปจ้ะพี่จ๋า ราคาบวกๆๆ บวกๆเข้าไปราคาก็เป็นพันๆ แต่ก็ยอมรับอย่างจริงใจว่าคุณภาพก็ไม่มีผิดหวังสมราคานั่นแหละจ้า ยกตัวอย่างน้ำหอมแบรนด์นำเข้า

30 ml ราคา 2500 ขวดใหญ่นั่นก็ 5400 สำหรับคนที่อยากจะได้ความหอมคุณภาพก็เลือกตลาดกลางได้นะจ้ะ คุณภาพดีดุจดั่งแบรนด์นอกแต่ราคาย่อมเยา 40 ml 1290 ลองไปหาใช้กันดูราคาดีงามติดทนมากค่ะ

2.รูปแบบของขวด ถ้าที่เห็นๆทั่วไปในท้องตลาดก็มาจากจีนคุณภาพก็ตามนั้นจ้า อาจจะมีขุ่นๆมัวๆหมองๆไปบ้าง งานก็จะไม่เนี๊ยบเท่าไหร่อาจมีปัญหาหลังใช้อีกนิดเรื่องหัวฉีด ตัวฟ๊อกกี้ฉีดน่ะค่ะ มันจะติดขัดบ้าง ไม่ออกเป็นละอองฝอยบ้าง มีซึมออกมาข้างขวดบ้าง ราคาก็มีตั้งแต่ขวดละ 10 บาทถึง 50 บาท(30ml) นะถ้าเกรดดีหน่อยก็มีราคาตั้งแต่ 40 บาทถึง 150 บาท ///

ขวดของเคาน์เตอร์แบรนด์เขา เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าออกแบบมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ เค้าจะขึ้นโมเอง หมายถึงว่าเค้าจะมีรูปแบบขวดที่ผลิตเองโดยเฉพาะ โดยขึ้นแป้นพิมพ์รูปขวด ตามแบบที่ต้องการ อันนี้แหละตัวแพงเลย พ่อคุณเอ้ย การขึ้นแป้นพิมพ์แบบนึ่งประมาณ 150,000 อัพ จนถึง 400,000 บ.เลยทีเดียวเชียว แล้วแต่ความยากง่ายของรูปแบบ ทำขวดใหม่ก็ต้องทำฝาใหม่ ค่าโม (ค่าขึ้นแม่พิมพ์) ฝาใหม่อีกราคาประมาณ 150,000 บาทเหมือนกัน พวกนี้เป็นอะไรจ๊ะ ต้นทุนหมดจ้า เนื้อของแก้วก็จะมีความใสกว่า หนากว่าหรือถ้าใช้เป็นรมทราย ขวดขุ่น เนื้อทรายก็จะมีความละเอียดกว่าอย่างเห็นได้ชัด หัวขวดส่วนใหญ่ก็จะเป็นหัวคริ้ม ก็คือหัวปิดตายนั่นแหละ เราไม่สามารถหมุนออกมาเติมน้ำหอมอะไรได้ใดเข้าไม่ได้แกะแล้วเสียเลย นี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายหมดนะจ๊ะเพราะว่าการผลิตหัวคริ้มต่อขวดค่าบรรจุก็เป็นหลัก10-20 บ.

3.กลิ่น เรื่องนี้เป็นอะไรที่เห็นเด่นชัดที่สุดแล้วค่า แต่ถ้าที่เค้าคนไม่สังเกตคือเค้าไม่สังเกตเลย คนที่ไม่มีเซ้นท์เรื่องของการดมกลิ่นเลย คืออันนี้แยกไม่ออกเลยจริงๆ แต่มิเป็นไร อย่าได้ตระหนกตกใจไปจ้า จากงานวิจัยพบว่ามนุษย์หนึ่งคนจะสามารถจดจำกลิ่นในชีวิตประจำวัน ได้ไม่เกิน 45 กลิ่น ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ จึง เป็นที่มาของอาชีพอาชีพหนึ่งเค้าเรียกว่า Perfumers หรือนักปรุงกลิ่น ต้องบอกว่าเพอร์ฟูมเมอร์ในเมืองไทย มี จำนวนน้อยมาก มีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ และเพราะความเป็น Specialist จึงนำมาซึ่งผลตอบแทนที่งดงาม แต่ทางเดินของเพอร์ฟูมเมอร์นั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ที่ถูกสั่งสมมา เป็นเวลานับสิบๆปี และต้องแยกแยะกลิ่นได้แบบสารพัด และแบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่ก็ถูกออกแบบกลิ่นโดยเพอร์ฟูมเมอร์ที่มากประสบการณ์ มีเป็นที่มาของข้อแตกต่างว่าทำไมน้ำหอมตลาด ต้องการพยายามเลียนแบบกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีทางเหมือนสักทีนะคะ เพราะเพอร์ฟูมเมอร์จะเข้าใจกลไกของกลิ่น top notes กลิ่นแรกเมื่อประสาทสัมผัสของเราสัมผัสได้ เมื่อกลิ่นแรกผ่านไปจะพบกับ Middle Note กลิ่นที่ผ่านไปแล้วสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างจาก Top notes และ Base Notes เปลี่ยนสุดท้ายที่ยังคงอยู่กับเราไป 6 ถึง 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น น้ำหอมคุณภาพจะถูกดีไซน์ให้กลิ่นมีความ deep จากการหมักบ่ม ละมุน เย้ายวน หรือ สดชื่น และมีความซับซ้อนของกลิ่นมีคาแรกเตอร์ของตัวเองที่ชัดเจนมากๆ ซึ่งทำให้น้ำหอมตลาด ไม่สามารถจะเลียนแบบได้ และถ้าใครมีโอกาสได้ซื้อมาลองใช้และทดลองเทสดูก็จะพบว่ากลิ่นมันต่างกันจริงๆ น้ำหอมบางสูตรเลือกใช้กลิ่นเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามจากการสกัดสารชนิดที่มีความคล้ายคลึงกับกลิ่นของมนุษย์ซึ่งเรียกว่าฟีโรโมน นำมาใส่เป็นสูตรผสมเพียงน้อยก็ทำให้ได้ความเย้ายวนที่เป็นที่ต้องการของเพศตรงข้าม

3. วัตถุดิบธรรมชาติที่เลือกนำมาสกัด

วัตถุดิบที่ถูกนำมาสกัดเป็นหัวเชื้อน้ำหอม ถ้าเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติจำพวกดอกไม้ หรือเปลือกไม้ หรือที่ได้จากสัตว์ต่างๆ แน่นอนว่ากว่าจะสกัดนั้นจำเป็นต้องใช้ดอกไม้จำนวนมหาศาล หรือถ้าใช้เปลือกไม้มาสกัดเป็น กลิ่นของ Wood ก็อาจต้องมีการทำให้เกิดบาดแผลบนผิวเปลือกไม้ก่อนสกัดออกมา ซึ่งกรรมวิธีนั้นค่อนข้างยากและบางทีอาจจะไม่ได้มาซื้อหัวน้ำหอมเลยก็เป็นได้ ซ้ำไปกว่านั้นอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ จึงเป็นที่มาของน้ำมันไม้กฤษณาในเมืองไทย ทำไมถึงกิโลกรัมนึงมูลค่า 4-800,000 บาทเลยทีเดียว และเป็นที่ต้องการของตลาดในกลุ่ม UAE มาก กระบวนการขั้นตอน ทั้งหมดกว่าจะได้หัวเชื้อธรรมชาติมาค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อน เพราะดอกไม้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยจึงทำให้การสกัดต่อหนึ่งครั้งนั้น. อาจจะมีค่าปริมาณความหอมที่ไม่เท่ากัน อุตสาหกรรมผู้ผลิตก็ต้องนำมาเบลนและปรับค่าจนให้ตรงตามสเปก จึงเป็นที่มาว่าทำไมน้ำหอมที่สกัดมาจากธรรมชาติถึงมีราคสูงมาก ที่สำคัญคือมันให้กลิ่นที่เสมือนมีพลังชีวิต และจะให้กลิ่นที่หอมละมุนนี ติดทนนาน ฟุ้งกระจายตัวได้ดี มีความสลับซับซ้อนของกลิ่น กลินสังเคราะห์เป็นอีกกระบวนการหนึ่งในการสังเคราะห์น้ำหอมให้ได้กลิ่นคล้ายกับหัวเชื้อน้ำหอมจากธรรมชาติ แน่นอนว่าไม่เหมือนซะทีเดียว และจะมีราคาถูกมากกว่ามากๆ น้ำหอมส่วนใหญ่ในท้องตลาดถ้าราคาถูกๆ ก็แน่นอนว่าจะไม่มีการเคลมว่า Natural Spary ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์นั่นเอง

4.ติดทนนานกว่า ถ้าเคยใช้น้ำหอมแล้วรู้สึกว่า เอิ่ม กลิ่นก็หอมดีนะแต่ทำไมติดไม่ทนเลย น้ำหอมทั่วไปแน่นอนค่ะ ความคงทนของกลิ่นไม่ดีเท่าอย่างแน่นอน มันจะมีส่วนผสมตัวหนึ่งที่เป็นส่วนผสมที่ช่วยตรึงกลิ่น ให้ติดทนนานซึ่งราคาก็ค่อนข้างจะสูงนิดหนึ่ง น้ำหอมตลาดก็จะลดปริมาณส่วนผสมตัวนี้ลงแล้วเติมแอลกอฮอล์ให้เพิ่มมากขึ้นเพราะราคาไม่แพง ฉีดครั้งแรกจึงให้ความฟุ้งกระจายได้ดีแต่สักพัก 2- 3 ชั่วโมงก็จะจางหายไป น้ำหอมคุณภาพดีถูกพัฒนาทำให้กลิ่นทนยาวนานได้6-8 ชม.หรืออาจถึง 24 ชั่วโมงเลยก็เป็นได้ ได้แต่ส่วนใหญ่น้ำหอมแบรด์เนมที่มาจากฝรั่งเศสหรืออังกฤษเค้าก็จะไม่ค่อยทำให้เป็นเนื้อเพอร์ฟูม Perfume อะนะฮะ คนไทยเข้าใจว่าเนื้อเพอร์ฟูมดีสุดเพราะมันแรงสุด และมันฉ่ำกระจายดี แต่ในยุโรปด้วยสภาพอากาศแล้วทำให้กลิ่นนั้นฉุนเกินไป ฉุนจนอาจเวียนหัวหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมเลยก็ได้ บวกกับสภาพอากาศที่โน่นความเป็นเมืองหนาวแน่นอนว่าการรักษากลิ่นในอุณหภูมิที่ดีที่สุดมันอยู่ในช่วงประมาณ 20 องศา บ้านเค้าก็เลยนิยมใช้กลิ่นที่เป็น Edu de parfum คือหัวน้ำหอมประมาณ 10 ถึง 15% ให้สิ่งที่กำลังพอดีไม่จาง ไปไม่แรงเกินไป หรือเป็นโคโลนจ์ที่ติดทนนาน ให้กริ่งที่กำลังพอดี สำหรับน้ำหอมตลาดจะมีการผสมหัวน้ำหอมที่ประมาณเพียง สัก2-5% และสารตรึงกลิ่นค่อนข้างน้อย เพื่อลดต้นทุนในการผลิต บวกกับสภาพอากาศบ้านเราที่มีอุณหภูมิสูงอยู่แล้วและเป็นเขตร้อนชื้น ยิ่งทำให้การระเหยของน้ำหอมเป็นไปได้ง่ายขึ้น

5.เนื้อน้ำหอม สีของน้ำหอม เชื่อว่าทุกท่านอาจจะไม่เคยสังเกตเนื้อของน้ำหอมเท่าไหร่นักส่วนใหญ่ก็คงสัมผัสกันเฉพาะกลิ่นเท่านั้น น้ำหอมคุณภาพจะมีความใสมาก โดยกระบวนการผลิตต้องมีการวัดปริมาณความใสของเนื้อน้ำหอม กระบวนการการกรองกว่าจะได้มาก็ต้องทำกันหลายขั้นตอน ทั้งก่อนการบรรจุ ต้องมีการฆ่าเชื้อภาชนะบรรจุด้วยแอลกอฮอล์ ทำให้ควบคุมการผลิตด้วยอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ให้มีลมโกรก จนทำให้เสียคุณภาพ ถ้าอุตสาหกรรมน้ำหอมใหญ่ใหญ่จะใช้กระบวนการการบรรจุต่อหนึ่งขวดคือหลัก 100 กว่าบาทเลยทีเดียว ได้มาซึ่งสีและเนื้อน้ำหอมที่มีคุณภาพ พูดถึงเนื้อของสีน้ำหอมแล้ว ในความเป็นจริง สีจะมีตั้งแต่ใสจนถึงออกอมเหลืองเท่านั้น ที่เราเห็นน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ไปหลายจ้าวมีสีชมพู สีอมส้มโอรส หรือสีอมม่วงเป็นการเติมสีเข้าไปในกระบวนการผลิตซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะแต่ละล็อตมีโอกาสที่จะสีไม่เท่ากัน เราผู้บริโภคอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละสีไม่เท่ากัน เพราะมันจะเหลื่อมกันแค่นิดเดียวเท่านั้น แล้วถ้าคุณบังเอิญไปซื้อน้ำหอมที่เหมือนมีสารแขวนลอยปนอยู่ในนั้นก็เดาได้เลยว่าอาจจะเป็นน้ำหอมคุณภาพต่ำก็เป็นได้ โดยเฉพาะน้ำหอมปลอมที่ขวดภายนอกเหมือนกับน้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์เด๊ะๆ แต่บอกเลยว่ากลิ่นที่คุณจะได้นั้นไม่ใช่แน่แน่ค่า

6. แอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบสำคัญในส่วนผสมน้ำหอมก่อนที่จะเป็น ผลิตภัณฑ์ออกมาวางจำหน่าย จะต้องมีการผสมแอลกอฮอล์เพื่อ ให้เกิดการกระจายตัวของกลิ่นและเกาะตามเสื้อผ้า ผม ผิว ซึ่งต้องบอกว่าน้ำหอมคุณภาพดีเค้าจะเลือกใช้แอลกอฮอล์ที่ใช้เฉพาะสำหรับสกินแคร์เท่านั้น หรือเรียกว่า Alc cosmetic grade ไม่มีสิ่งเจอปน ซึ่งแน่นอนว่าลดการระคายเคืองของผิวอันนี้จะเห็นได้ชัดสำหรับคนที่ ซึ่งแน่นอนว่าลดการระคายเคืองของผิวอันนี้จะเห็นได้ชัดสำหรับคนที่แพ้น้ำหอม โดยส่วนใหญ่คนแพ้น้ำหอมเค้าแพ้กันที่แอลกอฮอที่ผสมอยู่ในน้ำหอมนี่แหละค่ะ บางคนปฏิกิริยาไวมากต่อแอลกอฮอล์ ก็อาจจะมีผดแดงขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าความปลอดภัยของแอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับเครื่องสำอางนั้นมีคุณภาพดีกว่าและราคาสูงกว่าอย่างแน่นอน ส่วนน้ำหอมตลาดก็เป็นแอลกอฮอล์ทั่วๆไปลักษณะกินฉุนและแสบจมูก

กดแชร์
Share

7 ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้”น้ำหอม”

กดแชร์
Share

7 ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการใช้”น้ำหอม”… ที่อาจทำให้น้ำหอมกลิ่นเพี้ยนไปจากเดิม

หลายท่านตอนนี้ก็อาจกำลังเข้าใจกันผิดๆอยู่น้ะจ้ะเพราะหลายสำนักเหลือเกิ๊น พุ่งหลาวลังกา ราวน์ดรอฟ3ตลบ ออกตัวมาพูดถึง วิธีการฉีดน้ำหอมที่ถูกต้องคือเขาจิแนะนำให้ฉีดลงบนจุดชีพจร และรวมถึงจุดอย่างอย่างว่าด้วยนะออเจ้า พี่ศรีเลยอยากจิมาแนะนำว่าอาจเป็นความเชื่อที่เข้าใจผิดกันมาก็เป็นได้นะเจ้าคะทูลหัวของบ่าว..

1. ฉีดน้ำหอมแล้ว เอาข้อมือถูกัน

มีสาวๆหลายๆคนที่มักใช้มือถูหรือขยี้บริเวณข้อมือ หลังจากฉีดน้ำหอมไปแล้ว อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะคะ เพราะการขยี้หรือถูมันจะทำให้เกิดการเสียดสี มีความร้อนเกิดขึ้น ซึ่งอุณหภูมิที่อุ่นของร่างกายอยู่แล้วบวกกับการเสียดสีจะทำให้น้ำหอม”ช้ำ”และมีกลิ่นที่ผิดเพี้ยนไป แนะนำว่า ถ้าต้องการฉีดน้ำหอมที่บริเวณข้อมือควรฉีดทิ้งไว้เฉยๆ ปล่อยให้น้ำหอมเซ็ทตัวเองตามธรรมชาติจะดีกว่าค่ะ

2. เอาน้ำหอมไปแช่ตู้เย็น

หลายหลายคนมักคิดว่าวิธีการเก็บรักษาน้ำหอมที่ดีนั้น ต้องนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ ประมาณ 10-15 องศา แต่ในความเป็นจริง การเก็บรักษาน้ำหอมนั้น ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิพอเหมาะประมาณ 22-26องศา คืออุณหภูมิห้องปกตินั่นเอง

เหตุผลที่ไม่ควรนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นเพราะเมื่อมีการปิด เปิดตู้เย็นเข้าออกจะทำให้มีความสวิงขึ้นลงของอุณหภูมิ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น เมื่ออุณหภูมิต่ำเจออากาศร้อนจากภายนอก เกิดการคลายความร้อนทำให้น้ำเกาะตัวเป็นหยดน้ำบริเวณขวดน้ำหอม

ทำให้น้ำหอมมีโอกาสเสื่อมคุณภาพได้จากอุณหภูมิที่ไม่คงที่ ทำให้มีกลิ่นและสีที่เพี้ยนไปได้ เพราะฉะนั้นการเก็บน้ำหอมควรเลือกนำไปไว้ในอุณหภูมิห้องที่ไม่ร้อนจนเกินไป และไม่ควรโดนแสงแดดจะดีที่สุดค่ะ

 

3. ใช้น้ำหอมแบรนด์เดียวกัน กลิ่นเดียวกัน แต่ทำไมใช้แล้วแต่ละคนกลิ่นไม่เหมือนกัน

หลายท่านอาจจะเข้าใจว่า”โดนหลอก” “อาจจะโดนของปลอมเข้าแล้ว” แต่ในความเป็นจริงแล้วกลิ่นของน้ำหอมเมื่อถูกผสมกับกลิ่นกายของแต่ละคน ซึ่งมีฟีโรโมนเฉพาะตัวแฝงอยู่ น้ำหอมจะทำปฎิกิริยากับฮอร์โมนในร่ายกายที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ได้กลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ยก ตัวอย่างนะคะ คนอ้วนกับคนผอมฉีดน้ำหอมตัวเดียวกันก็กลิ่นต่างกัน แม้ว่าบางทีอาจจะต่างกันไม่มากจนชัดเจนก็ตาม

 

4. เราฉีดน้ำหอมแต่ละครั้งทำไมกลิ่นไม่เหมือนกัน

ต้องบอกว่ามันคือความมหัศจรรย์ของคนไกลของฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์ค่ะ ถ้าคุณลองพรมน้ำหอมในตอนเช้า ขณะที่สมองปลอดโปร่งตื่นมาพร้อมกับเช้าที่สดใส กลิ่นของความหอมจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ในขณะที่หงุดหงิดอารมณ์เสีย เครียส วิตกกังวลความหอมจะเปลี่ยนกลิ่นไปเป็นอีกแบบหนึ่ง

ช่วงที่คุณมีรอบเดือน แม้จะใส่น้ำหอมตัวเดิมก็จะให้กลิ่นที่เปลี่ยนไป หรือคุณแม่ตอนตั้งครรภ์กลิ่นก็จะเป็นอีกกลิ่นหนึ่งไปเลย เช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากภาวะของฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์เรานั่นเอง

 

5. ใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันกับโลชั่นกลิ่นจะติดดีขึ้นจริงหรือ?

หลายคำแนะนำบอกว่าต้องการความหอมที่ติดทนนานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ให้เลือกใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นเดียวกับโลชั่น ในความเป็นจริงแล้วนั้น ผู้ผลิตสามารถทำได้เพียงให้กลิ่นใกล้เคียงกันเท่านั้น ผู้ผลิตน้ำหอมระดับโลกเองก็ตามไม่สามารถ ทำให้เป็นกลิ่นเดียวกันได้ 100%

เนื่องจากปริมาณเปอร์เซนต์น้ำหอมที่ใช้ในส่วนผสมของครีมและน้ำหอมต่างกัน ในครีมที่เป็น Perfume body lotion ปกติทั่วไป จะใส่ปริมาณหัวน้ำหอมเพียง 3-5% แต่ส่งที่ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับแต่งกลิ่นให้ใกล้เคียงน้ำหอมคือ ส่วนผสมอื่นๆที่มีโอกาสทำให้กลิ่นเพี๊ยนไปจากเดิม

ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถนำน้ำหอมที่ใช้ฉีดตามร่างกายมาเติมลงในโลชั่นได้เลย ต้องมีการปรับแต่งเป็นกลิ่นที่ใกล้เคียงกันขึ้นมาใหม่ และ Perfume body lotion ไม่สามารถทำให้กลิ่นติดทนนานได้ 8 ชั่วโมงได้

 

6. น้ำหอมจะหอมมากที่สุดเมื่อฉีดลงบนจุดชีพจร จริงหรือ?

หลายท่านเข้าใจว่าน้ำหอมควรฉีดลงบนจุดชีพจรเพราะจะทำให้กลิ่นฟุ้ง กระจายตัวได้ดี และกลิ่นติดทนนานมากยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนเรามีเหงื่อและเหงื่อจะออกมากเป็นพิเศษบริเวณจุดที่เป็นข้อพับต่างๆ

เหงื่อที่ออกมาในปริมาณที่มากทำให้เกินกลิ่นฝาด สาป กลิ่นเหม็นของเหงื่อ เราเรียกสารเคมีที่ปล่อยออกมาว่า กลุ่มไทออล (thiol) ซึ่งไทออลสามารถทำลายพันธะที่เชื่อมต่อระหว่างน้ำหอมกับไอออนิคลิควิดได้เช่นเดียวกับน้ำ เมื่อผสมกับกลิ่นน้ำหอมทำให้กลิ่นออกมามีโอกาสเพี้ยนได้มากกว่าเดิม

นอกจากนี้ในเหงื่อมีความเป็นเบส ในรูปของโซเดียมคลอไรด์ (NaCl )อยู่ เพราะฉะนั้น ถ้าอากาศไม่ร้อนจัดเหงื่อออกไม่มากก็อาจไม่ได้น่ากังวลเท่าใดนัก เพราะฉะนั้นแนะนำว่า ควรฉีดพรมลงบริเวณผม เสื้อผ้า บริเวณจุดที่หนาๆอย่างปกคอเสื้อ ถ้ามีเสื้อแขนยาวตรงบริณข้อมือข้อพับแขนจะให้กลิ่นหอมที่ติดทนยาวนานกว่าเดิม

 

7. ฉีดน้ำหอมตรงจุดซ่อนเร้น หัวนม รักแร้ ฟีโรโมนแรงสุด!!!

อันนี้เป็นความเข้าใจแบบผิดๆและมีความเสี่ยงมากที่จะเกิดอาการแพ้ แม้ท่านถ้าเป็นคนที่ไม่เคยแพ้น้ำหอมมาก่อนก็ตามนะคะ แต่ด้วยในส่วนผสมของน้ำหอมหลักๆแล้วจะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ซึ่งเราไม่สามารถทราบได้เลยว่าผผลิตใช้แอลกอฮอล์เกรดดีมากน้อยแค่ไหนมาอยู่ในส่วนผสมของน้ำหอม ใช้เป็น Cosmetic Grade หรือไม่

การฉีดน้ำหอมบริเวณในร่มผ้า ลงบนผิว จุ๊กรูแร้ สะดือ หรือจุดซ่อนเร้นล้วนเป็นอันตรายมากค่ะ อาจไม่ได้นำมาซึ่งความหอมอย่างที่คุณต้องการแต่เพียงอย่างเดียว

อาจนำมาซึ่งรักแร้ดำ แสบระคายเคืองสะดือ หรือแสบคันบริเวณน้องสาว น้องสาวเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำได้เพราะถูกแอลกอฮอลล์กัด นึกภาพตอนเราเป็นแผลพอเอาแอลกอฮอลล์มาราด ทั้งแสบ ทั้งคันยิบๆ เหมือนกันเรยจ้า

การเลือกซื้อน้ำหอมแนะนำว่าให้เลือกน้ำหอมคุณภาพดี เพราะน้ำหอมคุณภาพดีจะใช้แอลล์กอฮอลคุณภาพดี หัวเชื้อน้ำหอมเป็นสารจากธรรมชาติไม่ระคายเคืองผิว และให้ความหอมที่ติดทนยาวนานกว่าให้กลิ่นที่มีความซับซ้อนกว่า คุ้มค่าคุ้มราคากว่าอย่างแน่นอนค่ะ

 

ที่มา:

S. Ornes. “The scent of a woman — or a man.” Science News for Students. May 12, 2014.

S. Ornes. “The nose knows a trillion scents.” Science News for Students. April 7, 2014.

กดแชร์
Share

ทำไมผู้ชายถึงชอบกินเด็ก? โดยเฉพาะเด็กมหาลัย?

กดแชร์
Share

ทำไมผู้ชายถึงชอบไปติดเด็กเอ๊าะ โดยเฉพาะเด็กมหาลัย?

นั่นสิ สงสัยใช่ไม๊ล่ะค่ะ วันนี้เราจะเอาข้อเท็จจริงมาถกกันให้ได้เข้าใจกันไปเลย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

กลิ่นกายที่หอมเป็นเสมือนหนึ่งเครื่องปรุงสำคัญที่จะทำให้ผู้หญิงอย่างเรานั้น”อร่อย แซ่บ น่ารับประทาน” แหม่ะ!! ศรีอยากจะให้ลองนึกภาพตามดูนะคะว่า ถ้าปรุงอาหาร โดยใส่เครื่องปรุงชั้นเลิศ ใส่ทั้งไข่ปลาคาเวียจากทะเลเมดิเตเรเนี่ยน ปลาเก๋าแดงจากฮ่องกง หมักด้วยไวน์จากฝรั่งเศส ปรุงรสด้วยเชฟมิชลินสตาร์ 5 ดาวจากอิตาลี มโนภาพแล้ว โอ้วววว ก๊อชช มันช่างล่ำค่ามหาตะไลอะไรเช่นนี้ แต่ปรากฏว่า ผู้รับประทานนั้นไม่ได้กลิ่นของอาหารเลย แม้ว่าอาหารจะเริศเลอล้ำค่าสมิหราขนาดไหน มันเหมือนกับกินแล้วอร่อยแต่ไม่นัว ไม่กระตุ้นความอยาก กลิ่นมันชืด ไร้ชีวิต ไร้สีสัน เพื่อนๆคือว่าจริงไหม เพราะฉะนั้นกลิ่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจะปล่อยประละเลยไม่ได้เลยทีเดียว เพราะผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีกลิ่นกายที่หอม มันสื่อถึงบุคลิกภาพที่ดี บ่งบอกว่าคุณเป็นคนดูแลตัวเองดี น่าเข้าหา และดึงดูดใจแถมยังเพิ่มความมั่นใจให้กับเราอีกด้วย

เคยได้ยินคำนี้ไหม?

“ได้กลิ่นแล้ว อยากมีเซ็กซ์ด้วย” บ๊ะ!! บร๊ะๆๆ ศรีอยากจิมาเม้าให้ฟังมาก คือเคยมีคนพูดแบบนี้จริงๆและเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆจะจ้ะจะว่าไป เพื่อนคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าแฟนมันพูดแบบนี้แล้วก็สะกิด ยิกๆทันทีที่หล่อนอาบน้ำเสร็จแล้วพรมน้ำหอมเบาๆ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กลิ่นที่ดีกลิ่นที่โดนใจและดึงดูดให้อยากทนุถนอม เพราะส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศอย่างมาก

มันเป็นกลไกร่างกายที่ส่งผลต่อประสาทที่ไปกระตุ้นฮอร์โมนทางเพศ ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไม๊คะว่าในอดีตเคยมีการค้นพบฟีโรโมนในมนุษย์ สืบเนื่องมาจากปฏิกิริยาการปล่อยกลิ่นเฉพาะตัวของสัตว์จำพวกแมลง และมีผลงานวิจัยที่ออกมารองรับเรื่องของการใช้กลิ่นมาบำบัดภาวะความเสื่อมทางเพศอีกด้วย

“ทำไมสามีดิฉัน ไม่ทำการบ้านเลย” มีคุณสาวๆหลายคนอยากถามแต่ไม่สามารถพูดมันออกมาได้ เลยเป็นประเด็นที่เก็บกดและถูกหยิบยกมาเม้าหลังไมค์กัน นี่แหละสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้วมันมีสาเหตุจากอะไรล่ะ? จะบอกว่าจากเพราะความเครียด ความวิตกกังวล พักผ่อนไม่พอนุ่นนั่นนี่ก็อาจจะใช่ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่คุณอาจคิดไม่ถึงก็คือ กลิ่นเดิมๆมันทำให้เกิดอาการเบื่อ เบื่อแบบเฉยชาไป ไม่ปลุกเร้าอารมณ์อย่างว่า หมดความเร้าใจ

สามีบางคนถึงเลือกไปมีกิ๊กมีกั๊ก ไปล้งไปเล้าจน์ แอ๊บแอ้เลี้ยงดูเด็ก เพราะต้องการได้สัมผัสที่คุ้นเคยในอดีต เพราะว่ากลิ่นสำคัญกับสภาวะความจำอย่างมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงเพราะกลิ่นสามารถทำให้คนนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตได้ และสื่อถึงมโนภาพที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

อาจจะเป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคยมาแต่ก่อน กลิ่นที่เมื่อได้สัมผัสถึงแล้วทำให้รู้สึกคึกคัก กลิ่นที่ทำให้รู้สึกเสียวซ่านได้อิกครั้ง นั่นคือ “กลิ่นสาบสาว” หรือ”กลิ่นแตกเนื้อสาว”นั่นล่ะจ้า เพราะเหตุนี้เอง”ผู้ชายกว่า 90% ถึงชอบไปติดเด็กๆเอ๊าะๆ เด็กมหาลัย” เพราะกลิ่นพวกนี้มันทำให้เค้าเหมือนกลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง

 

แล้วเรามีวิธีสร้างกลิ่นสาบสาวไหม?

มีจ้า!! ฟีโรโมนเป็นสิ่งที่ร่างกายเราสามารถสร้างเองได้จ้า โดยร่างกายเราสามารถผลิตฟีโรโมนเองได้ในแบบเดียวกันกับสัตว์เลย กลิ่นในการเชื้อเชิญ กลิ่นที่ปล่อยออกมาเมื่อต้องการการผสมพันธุ์ โดยในร่างกายเรา จะมีการสร้างฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองสั่งการให้เรามีกลิ่นเป็นพิเศษเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร กลิ่นนี้จะสามารถ รับรู้ได้ในบางจุดของร่างกาย เช่น ซอกคอ หัวนม สะดือ แผ่นหลังบริเวณไททรอย อวัยวะเพศ ทำไมถึงมีคนเคยบอกว่า “ต้องไม่อาบน้ำสัก 3 วัน จะได้มีกลิ่นฟีโรโมนแรงขึ้น” ก็เพราะว่าเมื่อพอเวลาเราอาบน้ำ ฟีโรโมนที่อยู่ตามต่อมเหงื่อ ก็จะถูกชะล้างออกไปด้วยนั่นเอง แต่ไม่ได้แปลว่าไม่อาบน้ำแล้วฟีโรโมนจะแรงขึ้นนะจ้ะ มัน เอิ่บ! จิเป็นความโสโครกได้ แทนที่กะจะได้แฟน อาจจะได้มะเหงกมาแทนได้

 

วิธีการที่จะสร้างเสน่ห์ ให้ดึงดูด โดนใจเพศตรงข้ามด้วยฟีโรโมนที่ง่ายที่สุดคือ …

“การโสด” ผลจากการวิจัยพบว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายที่โสดและพร้อมต้องการที่จะมีคู่ร่างกายสามารถสร้างกลไกการผลิตฟีโรโมนธรรมชาติได้ดีกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีแฟนแล้ว !!

และอีกสิ่งหนึ่งก็คือ “คนที่มีอารมณ์ขัน” คนที่ไม่คิดมาก เป็นคนสนุกสนาน มีอารมณ์ขัน จะผลิตฟีโรโมนร่างกายเป็นบวกและเป็นฟีโรโมนแห่งความเป็นมิตร น่าเข้าหา น่าสนใจ ได้มากกว่า คนที่อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่เคร่งเครียด

หรือถ้าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเหล่านี้ได้ก็แนะนำให้ไปลองเป็นน้ำหอมฟีโรโมนไปเลยจ้าเลือกดีๆเอาที่น่าเชื่อถือ มีส่วนช่วยนะให้เราพราวเสน่ห์มากยิ่งขึ้นแบบปุ๊บปั๊บรับโชคเรยทีเดียว

 

แล้วคุณล่ะคิดว่าตัวเอง มีกลิ่นสาบสาวไหม?

กดแชร์
Share